แหล่งท่องเที่ยวสไตล์เฉพาะ Man-Made Attractions ซบหนัก-ไปต่อไม่ไหว “หัวหิน-ชะอำ-พัทยา-ภูเก็ต” แห่ปิดกิจการตาม “ซานโตรินี่” เผยดีลขายเต็มตลาด แต่ไม่มีคนซื้อ เหตุนักท่องเที่ยวเปลี่ยนทิศ มีทางเลือกมากขึ้น “เขาใหญ่” ประกาศปิดชั่วคราว รอขาขึ้นไฮซีซั่น นายกสมาคมสวนสนุกไทยและเจ้าของสวนสยาม ยอมรับปีนี้ตลาดไม่โต
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมของธุรกิจแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือ Man-Made Attractions ของประเทศไทยเวลานี้อยู่ในภาวะที่ไม่ดีมาก ๆ ผู้ประกอบการเมืองท่องเที่ยวหลักหลายแห่งพยายามมองหาทางออกด้วยการตัดขายธุรกิจออก เพื่อตัดภาระแบกต้นทุนทางการเงิน ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 กระทั่งปัจจุบันในตลาดก็ยังมีการเจรจาซื้อขายกันอยู่ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ด้วยภาวะเศรษฐกิจหลังโควิด ทำให้ทรัพย์สินไม่มีราคา ขายได้ในราคาที่ไม่ดี ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงต้องกัดฟันทำต่อ แล้วใช้วิธีอัดโปรโมชั่นประคองสภาพคล่อง บางส่วนก็ตั้งราคาขายไว้ และยังคงทำธุรกิจอยู่ หากมีคนซื้อในราคาที่ตั้งไว้ก็พร้อมขายทันที บางกลุ่มก็หยุดประกอบธุรกิจแล้วรอขายออก โดยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ของธุรกิจนี้
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า สำหรับในโซนฝั่งหัวหินที่เป็นข่าวในโซเชียลนั้น ที่ผ่านมากลุ่มซานโตรินีได้ปิดกิจการไปนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งโควิดระบาดในปี 2563 และประกาศขายกิจการมานานแล้ว จนถึงวันนี้ก็ยังปิดตัว และยังปิดดีลการขายไม่ได้
หรือกรณีของเดอะเวเนเซียที่มีข่าวประกาศขายนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน และมีการตั้งราคาขายไว้แล้ว หากมีผู้สนใจซื้อในราคาที่ตั้งไว้ก็พร้อมขายทันที เพราะธุรกิจนี้ไม่ดีและเชื่อว่ายังไม่น่าฟื้นตัวแน่นอนในช่วง 2-3 ปีนี้
“กลุ่มที่ประกาศขายกันอยู่ตอนนี้ ราคาที่ขายไม่ถือว่าสูงมาก แต่คนซื้อไม่มี เพราะกลุ่มทุนมองว่า ถ้าต้องทำธุรกิจเดิมต่อไปอาจไม่คุ้ม แล้วแนวโน้มกำลังซื้อของตลาดคนไทยยังไม่ฟื้น ที่สำคัญธุรกิจประเภทนี้ขายยาก ถ้าขายให้คนที่ไม่ทำธุรกิจแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะซื้อไปทำอะไร เราจึงเห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวแบบนี้จะเจอปัญหายาว ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือ โปรโมชั่นเพื่อดึงให้คนออกมาใช้จ่าย เพื่อประคองสภาพคล่องกันต่อไป” แหล่งข่าวกล่าวและว่า
ไม่เพียงในโซนเมืองท่องเที่ยวหลัก “หัวหิน-ชะอำ” เท่านั้น ปัจจุบันผู้ประกอบการ Man-Made Attractions ประสบปัญหาในทุกพื้นที่ ทั้งพัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ อยู่ที่ว่าใครจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้
“วุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทสยามพาร์คซิตี้ ผู้ประกอบกิจการสยามอะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) และนายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมของแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น สำหรับปีนี้อยู่ในภาวะที่เรียกว่า มองไม่เห็นแนวโน้มการเติบโต ต่างจากปี 2566 ที่เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดค่อนข้างชัดเจน
“ธุรกิจนี้ดีเป็นช่วง ๆ ไม่สม่ำเสมอ อย่างปีที่แล้วถือว่าฟื้นตัวดีมาก อาจเป็นเพราะคนอยู่กับภาวะโควิดมานาน พอแหล่งท่องเที่ยวเปิด เลยออกมาเที่ยวกันเพิ่มขึ้น แต่มาปีนี้กลับพบว่า ธุรกิจไม่โตอย่างที่คาดการณ์ หรือยังไม่สามารถกลับมาเติบโตได้เท่าก่อนโควิด” นายวุฒิชัยกล่าว
ส่วนตัวมองว่า มี 2 ประเด็นที่ทำให้ธุรกิจนี้ไม่เติบโต ได้แก่ 1.ตลาดในประเทศ กำลังซื้อคนไทยระดับแมสและระดับกลางลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี คนไทยมีรายได้ต่ำลง สวนทางกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ขณะที่กลุ่มระดับบนที่มีกำลังซื้อหันไปเที่ยวต่างประเทศ
และ 2.โครงสร้างตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศเปลี่ยน กลุ่มที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งเป็นตลาดหลักของแหล่งท่องเที่ยวประเภทนี้มีจำนวนลดลงและเปลี่ยนไปโดยเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ทำให้แหล่งท่องเที่ยวที่พึ่งพากรุ๊ปทัวร์ โดยเฉพาะทัวร์จีนจะได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ
“สิ่งที่ท้าทายมากที่สุดตอนนี้คือ กลุ่มลูกค้าคนไทย ถ้าดูตัวเลขดัชนีชี้วัดด้านความเชื่อมั่นจะสะท้อนชัดเจนว่า คนไทยมีความเชื่อมั่นลดลง ไม่ค่อยอยากใช้จ่ายมากนัก และค่าใช้จ่ายในด้านความบันเทิง ท่องเที่ยว จึงถูกตัดออกเป็นกลุ่มแรก ๆ” นายวุฒิชัยกล่าว
นายวุฒิชัยกล่าวอีกว่า สำหรับสวนสยาม หรือสยามอะเมซิ่ง พาร์คนั้น ภาพรวมปีนี้ตัวเลขก็ไม่ได้แย่กว่าปีที่แล้ว แต่ไม่โตอย่างที่ควรจะเป็น หรือไม่ได้ดีเหมือนช่วงก่อนโควิด ซึ่งปกติการท่องเที่ยวบ้านเราจะฟื้นจากวิกฤตต่าง ๆ ค่อนข้างเร็ว แต่ครั้งนี้ดูเหมือนไม่ใช่
“ปีนี้เรายังไม่เห็นการเติบโตที่ชัดเจน หลายธุรกิจก็ยังไม่กลับเข้าสู่สถานการณ์เหมือนก่อนโควิด แบงก์ชาติบอกว่า ธุรกิจเราโตแบบ K Shape ที่พุ่งขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ กลุ่มนี้ไม่มีปัญหา ที่เป็นปัญหาคือ K Shape ที่ลงล่างเป็นปัญหาหนัก ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอีคนไทย”
เชื่อว่าระยะกลางและยาวจะปรับตัวได้ โดยทำบิสซิเนสโมเดล เปลี่ยนวิธีทำธุรกิจ โดยเสริมธุรกิจรีเทลแบรนด์ “บางกอกเวิลด์” คาดว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้สวนสยามในอนาคต
ปัจจุบันสวนสยามได้จัดโปรโมชั่นต่อเนื่องทุกเดือน เพื่อกระตุ้นกลุ่มลูกค้าคนไทยมาใช้บริการ เดือนนี้ได้ออกโปรโมชั่นร่วมปันน้ำใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จำหน่ายบัตรราคา 400 บาท ตลอดเดือนกันยายนนี้ โดยทุก 100 บาท เข้ามูลนิธิ ดร.ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ เพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากสวนสยาม ที่เป็น Man-Made Attractions กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น สวนนงนุช พัทยา (ชลบุรี) ก็จัดโปรโมชั่นลด 50% ตลอดเดือนกันยายนนี้ ให้นิสิตนักศึกษา สวนน้ำรามายณะ พัทยา (ชลบุรี) ออกแคมเปญขายบัตรคนไทยราคา 699 บาท จากราคา 1,190 บาท ถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ สวนน้ำโพโรโระ อควาพาร์ค กรุงเทพฯ (เซ็นทรัล บางนา) ออกแคมเปญขายบัตร 260 บาท จากราคาปกติ 400 บาท
ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ยอดนักท่องเที่ยวลดลงกว่า 50% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยเฉพาะเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2567 สถานการณ์ค่อนข้างไม่ดี เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของเขาใหญ่ นักท่องเที่ยวหันไปเที่ยวทะเลมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นแบบครอบครัว หรือกรุ๊ปสัมมนา
สาเหตุที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวลดน้อยลง คิดว่าน่าจะมาจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา ภาครัฐยังไม่จัดสรรงบประมาณออกมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ประชาชนไม่กล้าใช้เงิน
เมื่อเศรษฐกิจซบเซาอยู่แล้ว งบประมาณภาครัฐก็ไม่เป็นไปตามระยะเวลา จึงเกิดความฝืดเคืองในระบบการเงิน ส่งผลต่อกลุ่มโรงแรมระดับกลางและระดับเล็ก แต่โรงแรมระดับ 5 ดาว ไม่ได้รับผลกระทบเท่าที่ควร
“ส่วนการปิดกิจการของผู้ประกอบการในเขาใหญ่ยังไม่มี มีเพียงปิดชั่วคราว เพื่อรอช่วงไฮซีซั่น”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แหล่งท่องเที่ยวสไตล์ “Man-Made” แห่ปิด-เร่ขายตาม “ซานโตรินี่” หัวหิน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net
2024-09-08T02:29:58Z dg43tfdfdgfd